Browse By

Tag Archives: บาร์เซโลน่า

ลามีน ยามาล ลงสนามก็ต่อเมื่อร่างกายสมบูรณ์เต็มร้อย

บาร์เซโลน่ากลายเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจาก ริวัลโด้ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางในการดูแลและตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้งาน ลามีน ยามาล ดาวรุ่งวัยเพียง 17 ปี ผู้ที่กำลังเป็นความหวังใหม่ของวงการฟุตบอลสเปนในเวลานี้ โดยริวัลโด้เน้นย้ำชัดเจนว่า “การตัดสินใจส่งยามาลลงสนามควรเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเขามีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์เต็มร้อยเท่านั้น” พร้อมเตือนว่าการเร่งใช้งานนักเตะอายุน้อยเกินไปอาจส่งผลเสียต่ออาชีพในระยะยาว คำพูดของริวัลโด้ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากในฤดูกาลนี้ ลามีน ยามาล ได้รับโอกาสจากบาร์เซโลน่าอย่างต่อเนื่องทั้งในลาลีกาและแชมเปี้ยนส์ลีก แม้จะมีอายุเพียง 17 ปี แต่เขากลายเป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีมภายใต้การคุมทัพของ ชาบี เอร์นานเดซ ที่มองเห็นพรสวรรค์อันมหาศาลของเด็กหนุ่มรายนี้ การเล่นที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ เทคนิคเฉียบคม และความเร็วทำให้แฟนบอลจำนวนมากมองว่าเขาคือ “เมสซี่คนต่อไป” ของคาตาลัน แต่สำหรับริวัลโด้แล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้พรสวรรค์คือ “จังหวะเวลา” เขาเชื่อว่าการพัฒนาเยาวชนให้กลายเป็นนักเตะระดับโลกจำเป็นต้องมีความสมดุลระหว่างการเล่นกับการพักผ่อน โดยเฉพาะในช่วงที่ร่างกายยังไม่สมบูรณ์เต็มวัย “ลามีนเป็นนักเตะที่มีศักยภาพมหาศาล ผมเห็นตัวเองในเขาเมื่อตอนอายุเท่านี้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออย่าเร่ง เราต้องแน่ใจว่าเขาพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจในทุกครั้งที่ลงสนาม” ตำนานแซมบ้าวัย 52 ปี กล่าว ริวัลโด้ยังเสริมว่าฟุตบอลยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยแรงกดดันและการแข่งขันที่เข้มข้นกว่าสมัยของเขา การเล่นในทีมใหญ่อย่างบาร์เซโลน่าหมายถึงการต้องรับผิดชอบมหาศาลทั้งต่อสโมสรและแฟนบอลนับล้าน

มาร์คัส แรชฟอร์ด กับผลกระทบจากข้อจำกัดค่าเหนื่อยใหม่ของลาลีกา

ชื่อของ มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) คือหนึ่งในสัญลักษณ์ของยุคใหม่แห่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดาวเตะชาวอังกฤษผู้เติบโตจากอะคาเดมีของสโมสรจนกลายเป็นความหวังของชาติ ด้วยสไตล์การเล่นที่รวดเร็ว ดุดัน และมีความมุ่งมั่นเกินวัย อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีที่ผ่านมา เส้นทางของแรชฟอร์ดเริ่มมีรอยร้าว ทั้งจากฟอร์มการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอและปัญหานอกสนามที่เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมีกระแสข่าวลือว่าเจ้าตัวอาจต้องการออกไปหาความท้าทายใหม่ในต่างแดน โดยเฉพาะกับสโมสรยักษ์ใหญ่จากสเปนอย่าง บาร์เซโลน่า แต่ความฝันนั้นอาจต้องชะงักลง เมื่อ ลาลีกา (La Liga) ประกาศใช้นโยบาย “ข้อจำกัดค่าเหนื่อยใหม่” ที่เข้มงวดมากกว่าทุกยุคที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อแผนการเสริมทัพของทุกทีมในลีก โดยเฉพาะทีมที่มีปัญหาทางการเงินเรื้อรังอย่างบาร์เซโลน่า ลาลีกา กับการปฏิรูประบบการเงิน: จุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง นโยบายจำกัดค่าเหนื่อยใหม่ของลาลีกา หรือที่เรียกว่า “Salary Cap Regulation” คือระบบที่บังคับให้ทุกสโมสรต้องควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้สอดคล้องกับรายรับ เพื่อป้องกันการเกิดหนี้สินล้นตัวและการบริหารงบประมาณที่เกินจริง ฆาเบียร์ เตบาส (Javier Tebas) ประธานลาลีกา คือผู้อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้

ซาวี ซีมอนส์ กับการตัดสินใจครั้งสำคัญ

ชื่อของ ซาวี ซีมอนส์ (Xavi Simons) ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการฟุตบอลยุโรป ดาวเตะชาวดัตช์วัยเพียง 21 ปีผู้นี้ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกพูดถึงมากที่สุดตั้งแต่สมัยเยาวชน ด้วยฝีเท้าอันจัดจ้านและสไตล์การเล่นที่เฉียบคมราวกับผู้ใหญ่ เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในสถาบันลูกหนังระดับโลกอย่าง ลา มาเซีย ของบาร์เซโลน่า ก่อนย้ายไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) เพื่อแสวงหาความท้าทายใหม่ ทว่าด้วยความอัดแน่นของซูเปอร์สตาร์ในทีม ทำให้โอกาสลงสนามของเขามีจำกัด จนกระทั่งช่วงซัมเมอร์ล่าสุด การย้ายมาสู่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต และเมื่อเจ้าตัวออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า “คิดไม่ผิดที่เลือกสเปอร์ส” ก็ยิ่งเป็นประโยคที่สั่นสะเทือนทั้งวงการฟุตบอลยุโรป การย้ายทีมที่หลายคนตั้งคำถาม เมื่อข่าวการย้ายทีมของซาวี ซีมอนส์ มาถึงพรีเมียร์ลีก หลายฝ่ายต่างมองว่านี่คือ “การตัดสินใจที่เสี่ยง” เพราะสเปอร์สเองอยู่ในช่วงปรับทีมภายใต้การคุมของ อังเก้ ปอสเตโคกลู (Ange Postecoglou) ซึ่งเน้นเกมรุกเต็มรูปแบบ แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าซีมอนส์จะมีพื้นที่ในระบบนี้มากแค่ไหน ทว่าซาวี ซีมอนส์กลับไม่ลังเล

บาร์เซโลน่า เตรียมเอกสารอนุมัติการใช้งานสปอติฟาย คัมป์ นู

สนามฟุตบอลคือหัวใจของสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป และสำหรับ บาร์เซโลน่า ไม่มีสัญลักษณ์ใดจะสำคัญไปกว่าคัมป์ นู สนามที่เป็นบ้านแห่งประวัติศาสตร์ เต็มไปด้วยความทรงจำ และเสียงเชียร์ที่สะท้อนทั่วโลก แต่เวลานี้สนามดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงครั้งใหญ่ เพื่อยกระดับมาตรฐานสู่อนาคต ปัญหาคือ สโมสรมีเวลาไม่มากนักในการเตรียมเอกสารขออนุมัติการใช้งานบางส่วนของสนาม สปอติฟาย คัมป์ นู หากเอกสารไม่พร้อม จะส่งผลต่อการจัดการแข่งขัน, รายได้, และบรรยากาศที่แฟนบอลทั่วโลกเฝ้ารอ การแข่งขันกับเวลาในครั้งนี้จึงไม่ได้อยู่แค่ในสนาม แต่เกิดขึ้นในห้องประชุมและโต๊ะเจรจาเช่นกัน ประวัติศาสตร์คัมป์ นู และความหมายต่อ บาร์เซโลน่า คัมป์ นู เปิดใช้งานในปี 1957 และเป็นบ้านของบาร์เซโลน่ามาเกือบ 70 ปี สนามแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสนามฟุตบอล แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมและการเมืองของชาวคาตาลัน ความจุกว่า 99,000 ที่นั่ง ทำให้มันกลายเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเป็นเวทีที่ต้อนรับซูเปอร์สตาร์ลูกหนังมากมาย ตั้งแต่โยฮัน ครัฟฟ์, โรนัลดินโญ่, ลิโอเนล เมสซี จนถึงยุคปัจจุบัน